น้ำยาแอร์ ในสมัยก่อนช่างทุกคนมักจะบอกว่าถ้าแอร์ไม่เย็นแค่เติมน้ำยาแอร์ก็ได้แล้วไม่ต้องทำอะไร ต่อมาในอีกสักพักก็มีช่างแอร์ออกมาให้ความรู้ว่า น้ำยาแอร์ ไม่จำเป็นต้องเติมก็สามารถทำให้แอร์เย็นได้เหมือนกันล้างแอร์สักหน่อยเปิดทิ้งไว้เล่นหวยไวสัก 10 ตาก็เย็นแล้ว
อ่าว! แล้วแบบนี้น้ำยาแอร์มีผลต่อความเย็นของแอร์มากน้อยแค่ไหนกันแน่? ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้ก่อนว่าน้ำยามันทำงานยังไง มีผลกระทบอะไรบ้าง ประเภทของน้ำยา และสุดท้ายจะสามารถตอบได้ทันทีว่ามีผลหรือไม่มีผล แอร์แบบไหนต้องเติม แอร์แบบไหนไม่ต้องเติม ไปอ่านบทความกันครับ
การทำงานของน้ำยาแอร์
น้ำยาแอร์ทำหน้าที่ ดูดซับความร้อนจากอากาศ ภายในห้อง เมื่อแอร์ดูดอากาศที่ร้อนเข้าไปในตัวเครื่อง น้ำยาจะถูกบีบอัดให้มีความดันสูงและร้อน จากนั้นจะถูกส่งไปยัง คอยล์เย็น ที่ภายในตัวเครื่อง เมื่อมันระเหยและขยายตัว น้ำยาจะดูดซับความร้อนจากอากาศในห้อง ทำให้เกิดความเย็น จากนั้นน้ำยาจะไหลไปยัง คอยล์ร้อน ที่ด้านนอกเพื่อปล่อยความร้อนออกไป
ผลกระทบของน้ำยาแอร์ต่อความเย็น
น้ำยาแอร์ที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพในการทำความเย็น โดย คุณสมบัติของน้ำยา เช่น จุดเดือด ความสามารถในการดูดซับและปล่อยความร้อน และความเสถียรของน้ำยา จะมีผลต่อความเย็นที่แอร์สามารถทำได้:
- น้ำยาแอร์ที่มีคุณภาพสูง จะสามารถดูดซับและปล่อยความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แอร์สามารถทำความเย็นได้ดีและเร็ว
- น้ำยาแอร์ที่มีคุณภาพต่ำหรือเสื่อมสภาพ อาจทำให้การทำความเย็นลดลง เนื่องจากไม่สามารถดูดซับความร้อนได้ดีเท่าน้ำยาที่มีคุณภาพสูง
- น้ำยาแอร์ที่มีการรั่วไหล จะทำให้ปริมาณน้ำยาที่ระบบแอร์มีน้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้แอร์ทำงานหนักขึ้นและไม่สามารถทำความเย็นได้เต็มประสิทธิภาพ
ประเภทของน้ำยาแอร์และผลต่อการทำความเย็น
น้ำยาแอร์มีหลายประเภท เช่น R-22, R-410A, R-32 ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน:
- R-22 (Freon) เป็นน้ำยาแอร์ที่เคยใช้กันมาก่อน แต่มักถูกยกเลิกการผลิตเพราะมีผลกระทบต่อ ชั้นโอโซน และไม่สามารถทำความเย็นได้ดีเท่ากับน้ำยาใหม่
- R-410A เป็นน้ำยาแอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า R-22 และสามารถทำความเย็นได้ดีในอุณหภูมิที่สูงขึ้น
- R-32 เป็นน้ำยาแอร์ที่มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูงและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า R-410A
น้ำยาแต่ละประเภทมีผลต่อการทำความเย็นที่แตกต่างกัน โดย R-32 จะทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงกว่าและสามารถทำความเย็นได้ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ R-22 หรือ R-410A
ผลกระทบของน้ำยารั่วหรือขาดน้ำยา
หากน้ำยาแอร์รั่วหรือขาดน้ำยา แอร์จะไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะระบบจะไม่สามารถดูดซับความร้อนได้เพียงพอ ทำให้เกิดความเย็นน้อยลงและแอร์ต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งจะทำให้การใช้พลังงานสูงขึ้นและอาจเกิดความเสียหายกับระบบภายในเครื่องได้ในระยะยาว
การบำรุงรักษาน้ำยาแอร์
- เติมน้ำยาแอร์: หากแอร์ทำความเย็นได้ไม่ดีหรือมีสัญญาณว่ามีการรั่วไหลของน้ำยา แนะนำให้ตรวจสอบระบบและเติมน้ำยาแอร์ตามความจำเป็น
- ตรวจสอบการรั่วไหล: การตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำยาแอร์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาความสามารถในการทำความเย็นและประหยัดพลังงาน
แอร์จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์ไหม
แอร์ ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์ ถ้าเครื่องยังทำงานปกติและน้ำยาแอร์ไม่รั่วหรือหมด โดยปกติแล้ว น้ำยาแอร์ เป็นสารที่ใช้ในการทำความเย็นและจะอยู่ในระบบได้อย่างถาวร หากระบบไม่มีการรั่วไหลหรือเสียหายครับ ถ้าน้ำยาแอร์หมดการเติมน้ำยาแอร์อาจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องครับ เพราะสุดท้ายถ้าปัญหาที่น้ำยาแอร์หมดเกิดจากการรั่วของน้ำยายังไงเติมเข้าไปใหม่มันก็รั่วอยู่ดีครับ แต่ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆที่ต้องตรวจสอบนอกจากการรั่วของน้ำยาแอร์ครับ
สาเหตุที่อาจทำให้ต้องเติมน้ำยาแอร์:
- น้ำยาแอร์รั่ว: หากมีการรั่วไหลของน้ำยาแอร์จากระบบ เช่น จากท่อ หรือจุดเชื่อมต่อของเครื่อง อาจทำให้แอร์ไม่สามารถทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบแอร์เสื่อมสภาพ: บางครั้งอุปกรณ์ภายในระบบแอร์อาจเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดการรั่วไหลเล็กน้อย และอาจต้องเติมน้ำยาแอร์ใหม่
- การติดตั้งไม่ถูกต้อง: หากแอร์ไม่ได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องตั้งแต่แรก อาจทำให้เกิดการรั่วไหลของน้ำยาแอร์ในระยะยาว
วิธีตรวจสอบว่าต้องเติมน้ำยาแอร์หรือไม่:
- แอร์ไม่เย็นหรือเย็นไม่พอ: หากแอร์ไม่ทำความเย็นหรือไม่เย็นเหมือนเดิม อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าน้ำยาแอร์มีปริมาณไม่เพียงพอ
- ฟังเสียงแอร์: หากแอร์ทำงานเสียงดังผิดปกติ เช่น เสียงฮัมเบาๆ หรือลมเย็นไม่แรง อาจหมายความว่ามีการขาดน้ำยาแอร์
- สังเกตน้ำแข็งจับ: หากพบว่ามีการจับตัวของน้ำแข็งที่ท่อของแอร์หรือเครื่องเย็นผิดปกติ อาจเป็นอาการของน้ำยาแอร์ต่ำ
- ตรวจสอบการรั่วไหล: หากสงสัยว่ามีการรั่วไหลของน้ำยาแอร์ ควรให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสอบและซ่อมแซมการรั่วไหล
สรุป
น้ำยาแอร์มี ผลโดยตรง ต่อความเย็นของแอร์ การเลือกน้ำยาแอร์ที่มีคุณภาพสูงและการบำรุงรักษาระบบน้ำยาแอร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้แอร์ทำความเย็นได้ดีและมีประสิทธิภาพยาวนาน หากน้ำยาแอร์มีการรั่วไหลหรือเสื่อมสภาพ จะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นและลดประสิทธิภาพในการทำความเย็น
Comments are closed